วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บล้อกเกอร์ 20คนที่มีชื่อเสียง

Hacker คืออะไร

Hacker ก็คือ ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบคอมพิวเตอร์อย่างสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครือข่าย , ระบบปฏิบัติการ หรือ เรื่องของทางจิตวิทยาเองก็ตาม พวกเขามีความรู้ทางด้านนี้สูงมากซะจน สามารถเข้าใจว่า มันมีช่องโหว่ตรงไหน หรือสามารถไปค้นหาช่องโหว่ได้จากตรงไหนบ้าง เมื่อก่อนภาพลักษณ์ของ Hacker จะเป็นพวกชั่วร้าย ชอบขโมยข้อมูล หรือ ทำลายให้เสียหาย แต่เดี๋ยวนี้ คำว่า Hacker หมายถึง Security Professional ที่คอยใช้ความสามารถช่วยตรวจตราระบบ และแจ้งเจ้าของระบบว่ามีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง พูดง่ายๆว่า มีจริยธรรมในความเป็น Hacker นั่นเอง ในต่างประเทศมีวิชาที่สอนถึงการเป็น Ethical Hacker (แฮกเกอร์แบบมีจริยธรรม) กันเลยทีเดียว ซึ่งแฮกเกอร์แบบนี้เรียกอีกอย่างว่า White-Hat Hacker ก็ได้ เปรียบเสมือน ฝ่าย เจได ใน Star War ครับ แล้วพวกที่นิสัยไม่ดีล่ะจะเรียกว่าอะไร พวกนี้เรียกว่า Cracker สรุปง่ายๆก็คือ มีความสามารถเหมือน Hacker ทุกประการ แต่ขาดเรื่องจริยธรรมไปอย่างเดียว คนพวกนี้ มีความสามารถสูงแต่ความรู้สึกอยากเอาชนะก็สูงไปด้วย จึงชอบที่จะทำชื่อเสียโด่งดังด้วยการไป Hack โน่นนี่ แล้วสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านทั้งแบบรู้ตัว และ ไม่รู้ตัว เปรียบได้กับพวก Sith (ฝ่ายมืด) ในเรื่อง Star War แหละครับ แต่ก็ต้องขอนับถือบรรหา Black-Hat ทั้งหลายที่เก่งฉกาจ คิดค้นวิธี Hack มหาพระกาฬออกมาทำให้วงการ Security ต้องตื่นตัวมากๆตามไปด้วย แต่ก็ยังมีอีกพวกนึงที่ก่อความน่ารำคาญได้มาก นั่นก็คือพวก Script-Kiddies ครับScript-Kiddied แปลตรงๆตัวก็คือ พวกนี้โชคดีได้ ดาบ Light-Saber มาในมือ ก็เลยเอาไปหาเรื่องชาวบ้าน เปรียบเสมือนโจรมุมตึก ที่มีของนิดหน่อยก็นึกว่าตัวเองเจ๋ง แต่ที่จริงเป็นแค่หนอนแมลงชั้นต่ำของวงการที่ทำให้วงการ Hacker ชื่อเสีย อยู่ทุกวันนี้ คนพวกนี้จะมีความรู้แค่หางอึ่ง แต่ไปโหลดโปรแกรมที่พวก Hacker เค้าใช้งานกันมาใช้เองบ้าง ซึ่งในวงการ Hacker มีพวกนี้อยู่กว่า 95% เลยทีเดียว เปรียบได้กับพวกตัวประกอบเกรดบีใน Star War ที่โดนเลเซอร์ยิงทีเดียวก็ตาย ตำนาน  Hacker ระดับโลกวงการคอมพิวเตอร์อยู่คู่โลกนี้มาประมาณ 50 กว่าปีแล้ว มาลองดูกันว่า Hacker ระดับโลกเค้าเป็นใครและเดี๋ยวนี้เค้าเป็นยังไงกันบ้าง




1.Justin Tanner Peterson
รู้จักกันในนาม Agent Steal, Peterson อาจเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ในเรื่องการ crack บัตรเครดิต ดูเหมือน Peterson จะถูกชักจูงด้วยเงินแทนที่จะเป็นความอยากรู้อยากเห็น เพราะการขาดคุณธรรมประจำใจของเขาเองที่นำหายนะมาสู่เขาและผู้อื่น อย่างเช่น ครั้งหนึ่ง เมื่อเขาโดนจับ เขากลับทิ้งเพื่อนของเขา รวมทั้ง Kevin Poulsen เพื่อเจรจาต่อรองกับ FBI เพื่อที่จะเปิดโปง ทำให้เขาได้รับการปล่อยตัว ต่อมาภายหลังได้หนีไป และก่ออาชญากรรมเช่นเดิม




2.The Deceptive Duo
หรือคู่หูจอมหลอกลวง ประกอบไปด้วยสมาชิก 2 คนคือ Benjamin Stark อายุ 20 และ  Robert Lyttle อายุ 18 ปี เจาะระบบของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่งรวมถึง นาวิกโยธิน,นาซา,FAA(ทบวงการบินพลเรือน)และ กระทรวงกลาโหม โดยพวกเค้าให้เหตุผลว่าที่ทำไปก็เพื่อเปิดเผยความล้มเหลวของระบบรักษาความปลอดภัย และต้องการปกป้องประเทศจากสงครามภายหลังเหตุการณ์ 911




3.Dmitri Galushkevich
เป็นhacker ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในเอสโทเนีย เค้ารู้สึกผิดหวังจากการที่อนุสาวรีย์บรอนซ์ของทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในเอสโทเนียในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองถูกย้ายที่ เลยทำhack เข้าไปโจมตีระบบของ รัฐบาล,พรรคการเมืองต่างๆ,หนังสือพิมพ์ และสถาบันเศรษฐกิจ ทำให้ทั้งประเทศตกอยู่ในสภาพ "internet gridlock"–คือทั้ง ATM,เว็บไซต์ และระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลอยู่ในสภาพที่ใช้การไม่ได้ แถมบางเว็บก็รีไดเร็คไปยังภาพของทหารโซเวียต และอ้างอิงถึง Martin Luther King เกี่ยวกับการ "ต่อต้านสิ่งชั่วร้าย"อีกต่างหาก




4.John Draper
John Draper–มีนามแฝงว่า Cap'n Crunch
ผลงาน-ในช่วง ทศวรรษ 1970 เขาได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งการ crack โทรศัพท์(phone phreaking) เพราะในขณะนั้น ยังเป็นยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตและ PC ระบบที่ถือว่าใหญ่ที่สุดก็คือระบบโทรศัพท์และ Draper ก็ถือว่าเป็นเทพในด้านนี้
สิ่งที่น่าสนใจ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการ crack โทรศัพท์ของDraper คือ หลอดพลาสติกที่อยู่ในกล่องซีเรียล(!?!)–ซึ่งก็คือข้าวโพดเกล็ดที่เรากินกับนมนี่ล่ะ จากยี่ห้อ Cap'n Crunch cereal พลาสติกอันที่เค้าใช้เรียกว่า whistle หรือเครื่องเป่า ซึ่งจะทำให้เกิดคลื่นเสียงขนาด 2600 Hz ร่วมกับใช้ Bluebox ทำให้เค้าสามารถโทรศัพท์ได้ฟรี (ช่างคิดจริงๆ)




  5.Raphael Gray
Raphael Gray -ชื่อในวงการ Curador
ผลงาน-เจาะเข้าไปใน เว็บไซต์ e-commerce ต่างๆแล้วขโมยข้อมูลหมายเลขบัตรเครดิตของลูกค้ามากว่า 26,000 หมายเลข แล้วโพสต์ขึ้นบนเว็บเพจของตนเอง
สิ่งที่น่าสนใจ-เกรย์เรียกตัวเองว่า The saint(of e-commerce) เขาอ้างว่าการที่แฮ็กเข้าไปในเว็บไซต์เหล่นั้นก็เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือเว็บต่างๆเหล่านั้น(ช่วยยังไงมิทราบยะ)  และนอกจากนี้หนึ่งในหมายเลขบัตรเครดิตที่เขาขโมยมาก็เป็นของคนดังในโลกของไอที ที่มีชื่อว่า บิล เกตต์ และเกรย์ก็ได้จัดการส่งยาเม็ดไวอากร้า(!?!) ไปยังที่อยู่ของบิล เกตต์และนำมาโพสต์ลงบนเว็บไซต์อีกต่างหาก (แสบจริงๆ)




6. Tsutomu Shimomura
สุด ยอด White-Hat สายเลือดเอเชีย Tsutomu Shimomuraได้รับชื่อเสียงอย่างโด่งดัง ในฐานะที่ร่วมมือกับ John Markoff ในการช่วยเหลือ FBI ไล่จับสุดยอดแฮกเกอร์ของโลกในยุคนั้น นั่นก็คือ KevinMitnick นั่นเอง ?Tsutumu ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่ SDSC (San DiegoSupercomputer Center) ซึ่งจริงๆแล้วก็โดนอีตา Kevin เข้ามาแฮกเอาโปรแกรมและเมล์สำคัญๆไป ดังนั้นด้วยคาวมแค้นเขาจึงร่วมมือกับ FBI ไล่จับ Kevin Mitnick ซึ่งต่อมาเมื่อเขาจับได้เขาก็เลยเขียนหนังสือชื่อ Takedown เป็นเรื่องราวของการไล่จับ KevinMitnick ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง TakeDown ด้วย?



7. Richard Stallman 
ผู้ริเริ่มโครงการ GNU (อ่านว่า กนู นะครับ) และมูลนิธิซอฟท์แวร์เสรีรวมไปถึงผู้ริเริ่มแนวคิดเรื่อง Copyleft (ฮ่า)และเป็นผู้ร่างสัญญาอนุญาติให้ใช้ได้ทั่วไป และต่อในภายหลังสัญญานี้ได้กลายเป็น บรรทัดฐานซอฟท์แวร์เสรีจำนวนมากความเป็นแฮกเกอร์ของเค้าโผล่มาตอนที่เค้าทำ งานอยู่ที่ MIT ในฐานะของ Staff Computer ทุกครั้งที่มีระบบอะไรใหม่ๆติดตั้งเข้าไปและมีรหัสผ่านกำกับอยู่Richard Stallman จะหาทางแฮกและปลดรหัสผ่านออกทุกครั้ง ยังครับยังไม่พอพอแฮกระบบเสร็จก็แฮก Printerต่อเพื่อพิมพ์ข้อความบอกชาวบ้านว่าระบบไหนอยู่ที่ไหนปลดรหัสผ่านอะไร ไปแล้วบ้าง แสบจริงๆ




8. Linus Torvalds
บิดา ผู้ให้กำเนิด Linux ระบบปฏิบัติการ Unixที่คนนิยมกันมากที่สุดในโลกขณะนี้ ในปี 1991 ขณะที่เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เฮลซิงกิ เขาได้สร้าง linux kernelขึ้นจากพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Minix ขึ้น หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมสมัครพรรคพวกมาช่วยกันเขียนและช่วยกันพัฒนาต่อกันทาง อินเทอร์เน็ต โดยที่เขาเป็นคนรวบรวม ตรวจสอบและแจกจ่ายงานไปยังโปรแกรมเมอร์ต่างๆทั่วโลกรวมถึงแจกจ่ายให้คนช่วย กันเอาไปใช้ฟรีๆอีกด้วยจุดที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ทุกคนที่มาร่วมทำนั้นทุกคนยินดีช่วยโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแต่อย่างใด และมีเงื่อนไขต่อด้วยอีกว่าเมื่องานเสร็จแล้วจะต้องเผยแพร่ตัว Source Code แก่สาธารณะโดยไม่คิดมูลค่าเช่นเดียวกันครับ?ทุกวันนี้ Linux Torvalds ทำงานอยู่ที่บริษัท Transmeta บริษัทที่ทำหน้าที่ออกแบบ CPU และยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้นำของบรรดาผู้ใช้งานและพัฒนา Linux ทั้งโลกครับยิ่งไปกว่านั้น หนังสือ Times Magazine ได้ยกให้เค้าเป็นหนึ่งคนในหนังสือชื่อ 60 Years of Hero สุดยอด




9. Tim Berners-Lee
ต้องขอบอกว่า ถ้าไม่มีอีตานี่โลกเราจะไม่มีคำว่า World Wide Web ครับเพราะเค้าคนนี้คือ คนที่ คิดค้น www ขึ้นบนโลก. Tim Berners-Lee เป็นลูกของสองนักคณิตศาสตร์ระดับโลก Convey และ ?Mary Berners-Leeซึ่งเป็นทีมสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ Manchester Mark 1เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆของโลก?ในปี 2532 Tim Berners-Lee ทำงานเป็น FreeLance อยู่ที่ CERN (ศูนย์วิจัยเรื่องนิวเคลียร์ของยุโรป)ซึ่งเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ ที่สุดของยุโรปเขาได้คิดค้นระบบข้อความหลายมิติ (Hypertext) ขึ้นมา ซึ่งเมื่อมันผนวกเข้ากับ TCP และ DNSล่ะก็ มันจะเป็นความสุดยอดของ HyperText แน่นอนและหลังจากนั้นมันจึงกลายเป็น ?World Wide Web ครับ ?เมื่อปี 2548 เขาได้รับรางวัล 1 ในร้อยบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อคนทั้งโลกมากที่สุด และในปี 2550 Tim Berners-Lee ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายหน้าจากสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซา เบทที่สอง เป็นการส่วนพระองค์ทำให้ตอนนี้เค้ากลายเป็น Sir Tim Berners-Lee ไปแล้วครับ?ผลงานการ Hackของ Tim Berners-Lee ไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ทำให้เค้าโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย Oxford ล่ะครับ ปล.เว็บไซต์แรกของโลกคือ Welcome to info.cern.ch สร้างขึ้นโดย Tim Berners-Lee นี่แหละครับ




10. Stephen Wozniak
พูดถึง Apple Computer ใครๆก็อาจจะนึกถึง Steve Jobs ชายหนุ่มหัวแอบล้านซึ่งหลายๆคนรอคอย KeyNote ของเค้าในงาน MacWorldConference ทุกปี แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วถ้า Apple Computer ขาดเค้าคนนี้ไปล่ะก็ มันจะไม่มีวันนี้แน่นอน เพราะ Steve Wozniak คือผู้่ร่วมก่อตั้ง Apple Computer ครับ?การเป็น Hacker ช่วงแรกของเค้าอยู่ที่เค้าได้ไปอ่านบทความเรื่องการเจาะระบบโทรศัพท์ ในหนังสือ Esquire เข้าหลังจากที่คุยกับ Steve Jobs พวกเขาก็ได้คิดค้น BlueBox เครื่องเจาะระบบโทรศัพท์ที่ทำให้คุณสามารถ โทรทางไกลได้ฟรีๆ (เอาเข้าไป)มีครั้งหนึ่ง Steve Wozniak ได้แอบใช้เครื่อง BlueBox โทรหาพระสันตปาปาโดยปลอมตัวว่าเป็น Henry Kissingerรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐในตอนนั้นแสบจริงๆ?สำหรับ ช่วงแรกของการก่อตั้ง Apple Computer. Wozniakได้ขายเครื่องคิดเลขแสนแพงของเขา และ Jobs ได้ขายรถแวนของเขาเพื่อเป็นทุนในการก่อตั้ง Apple Computer ครับ และสุดท้ายเครื่อง Apple Iก็วางตลาด และทั้งคู่ได้ขายเครื่องนี้ในราคาเครื่องละ 666.66$




11.Jonathan James
รู้จักกันในนามว่า C0marade เป็นเด็กอายุ 15 ปีที่ได้แฮกข้อมูลเกี่ยวกับความมั่งคงของประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็ถูกจับกุมในฐานะอาชญากรทางด้านไซเบอร์ เป็นเด็กอายุน้อยคนแรกที่ถูกจำคุกเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ ในปี 2007 เขาก็ได้ทำการแฮกข้อมูลและรายละเอียดต่างๆของผู้ใช้บริการ Wi-Fi เป็นล้านๆคน อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ปฎิเสธเกี่ยวกับการแฮกครั้งนี้ ในปี 2008 เขาก็ได้ฆ่าตัวตายด้วยการเอาปืนยิงตัวเอง มีจดหมายก่อนตายที่เขาเขียนไว้ว่า เขาสูญเสียความศรัทธากับระบบยุติธรรมและมีความกลัวว่า เขาจะกลายเป็นแพะรับบาปจากเจ้าหน้าที่ เสียชีวิตด้วยวัย 24 ปี





12.Albert Gonzalez
เริ่มสนใจเรื่องการแฮกตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และก็เริ่มชำนาญในเรื่องการขจัดไวรัสในช่วงอายุ 9 ขวบ ตอนที่เขาเรียนอยู่ เขาก็ได้ทำการแฮกระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลประเทศอินเดีย ซึ่งทำให้เขาถูกห้ามใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลา 6 เดือน ต่อมาเขาก็มาในนามแฝงที่ชื่อว่า ShadowCrew เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่รู้จักกันดีที่ได้แฮกการ์ด ATM เป็นล้านๆ และกลายเป็นผู้ก่อการร้ายทางด้านระบบการ์ดและบริษัทอื่นๆ ปัจจุบันเขาถูกจำคุกและก็จะได้รับการปล่อยตัวในปี 2025




13.Kevin Mitnick
เป็นที่ปรึกษาทางด้านระบบการเชื่อมต่อและเป็นผู้เขียนหนังสือ The Art Of Deception เริ่มฉายแววตั้งแต่อายุ 16 ปีโดยการแฮกบริษัทต่างๆและซอฟแวร์ที่มีลิขสิทธิ์ เขาจึงถูกจำคุกเป็นเวลา 12 เดือน กับอีก 3 ปี ก็ได้รับการปล่อย แต่เขาก็ได้ลี้ภัยไปยังเมืองอื่นๆเป็นเวลาสั้นๆ แม้ว่าจะหลบหนีจากน้ำมือตำรวจได้ แต่เขาก็ยังทำการแฮกต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น IBM,Nokia,Mororola และอื่นๆ แต่สุดท้ายก็ถูกทาง FBI จับกุมที่หอพัก และก็ติดคุก 5 ปีในปี 2000




14.Robert Tappan Morris
เป็นอาจารย์สอนทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้า และสอนทางด้านคอมพิวเตอร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าได้สร้างไวรัสที่มีชื่อว่า Morris Worm เป็นไวรัสที่ไม่ได้สร้างความเสียหาย แต่เป็นการวัดขนาดของอินเตอรเน็ต แต่ก็ทำให้ระบบต่างๆอ่อนแอลง และไวรัสก็เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น เขาก็สารภาพในปี 1986 ถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปี รับใช้สาธารณะ 400 ชั่วโมงและถูกปรับอีก 10000 ดอลลาร์




15.Adrian Lamo
เป็นนักแฮกที่มีความเกี่ยวข้องกับจอมแฉหลายๆคนอย่าง Bradley Manning ที่ได้ทำการเปิดโปงเรื่องปฎิบัติการลับทางทหารและทาง Wikileaks ถือเป็นแฮกเกอร์ที่ช่ำชองมาตั้งแต่เด็ฏๆ เขาได้ทำการเสาะหาข้อมูลต่างๆบนโลกไซเบอร์ แล้วต่อมาก็ได้ทำการแฮกเว็บไซด์ Microsoft , Yahoo! ,The New York Times และอื่นๆ เขามีการปรับปรุงทักษะตัวเองทางด้านการแฮกอยู่ตลอด จึงยากที่จะรู้ว่าเขาแฮกในรูปแบบไหน ซึ่งเขาก็ได้เป็นกระบอกเสียงหนึ่งในการเปิดโปงข้อมูลลับๆด้วยเช่นกัน




16.Gary Mckinnon
เป็นชาวสก็อตแลนด์ที่ได้ทำการแฮกข้อมูลนาซ่าและกองทัพของประเทศอเมริกาในช่วงปี 2001-2002 เว็บไซด์กองทัพเขาได้ทำการแฮกแล้วเขียน “ระบบความปลอดภัยของห่วยวะ” และก็ท้าทายต่อด้วยการแฮกระบบอาวุธของประเทศอเมริกาอีก อย่างไรก็ตามเขาก็ทำการโจมตีเกี่ยวกับเหตุการณ์ 9/11 ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับทางรัฐบาลและเรื่องที่ทางองค์กรต่างๆได้ขจัดพลังงานอื่นๆแล้วก็นำน้ำมันเข้ามาแทนที่ พอถูกจับได้ เขาก็ได้รับการปล่อยตัวจากการวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรค Asperger Syndrome ที่มาจากความบกพร่องทางด้านการพัฒนาร่างกาย 




17.Onel De Guzman
เป็นนักศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์ชาวฟิลิปปินส์ ที่ได้ดรอปเรียนในปีสุดท้ายหลังจากที่ได้ปฎิเสธไม่รับวิทยานิพนธ์ที่เขาได้แฮกมาจากอินเตอร์เน็ตมา หลังจากนั้นเขาและเพื่อนของเขาก็ได้สร้างไวรัสสุดอันตรายที่ชื่อ ILOVEYOU ที่ได้ทำการโจมตีระบบปฎิบัติการทั่วโลก ทำให้อีเมล์หลายพันล้านเสียหายไปทั้งโลก ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีกฎหมายเอาผิดเกี่ยวกับแฮกเกอร์ในประเทศฟิลิปปินส์ เพราะว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออกกฎหมายนี้ เขาและเพื่อนของเขาจึงไม่มีความผิดอะไร





18.Mark Abene
เป็นอีกแฮกเกอร์คนหนึ่งที่มีคนให้ความเคารพศรัทธา รู้จักกันในฐานะ Robin Hood ในโลกไซเบอร์ ที่จัดโดยนิตยสาร Time เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้คอมพิวเตอร์ เป็นคนที่สนใจได้ในการสำรวจเสาะหาข้อมูลต่างๆ ระบบปฎิบัติการต่างๆ และระบบการสื่อสาร แล้วก็เข้าองค์กรแฮกเกอร์อย่าง Legion Of Doom (LOD) และกลุ่ม Masters Of Deception (MOD) โดยเขาจะเน้นการแฮกข้อมูลลับของสหรัฐอเมริกา และสุดท้ายก็ถูกจับกุมได้ ปัจจุบันเขาก็ทำงานที่ปรึกษาอิสระในเรื่องระบบการเชื่อมต่อหลายองค์กร




19.Kevin Poulsen
หรือรู้จักกันในชื่อของ Dark Dante เป็นแฮกเกอร์ที่ผู้คนให้ความนับถือ แล้วต่อมาเมื่อเขาถูกจับได้ที่ไปแฮกเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ สถานีวิทยุ เขาก็ยังสามารถหลบหนีออกมาได้ และโชว์ทักษะการแฮคขั้นเทพโดยไปแฮกเบอร์โทรศัพท์ของรายการ Unsolved Mysterious ล่มมาแล้ว และก็สามารถควบคุมโทรศัพท์ได้อย่างถาวร แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับกุมในปี 1991 จำคุก 51 เดือน ปัจจุบันเขาทำงานทางด้านเว็บไซด์




20.Dmitry Sklyarov
เป็นหนุ่มแฮกเกอร์มาดเซอชาวรัสเซีย ที่เขาถูกจับกุมในปี 2001 จากการแฮกข้อมูลต่างๆใน Las Vegas,Nevada เขายังทำการแฮกระบบของ Adobe และก็แฮกข้อมูลลิขสิทธิ์ต่างๆทางด้านซอฟแวร์ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุม เขาก็เคยทำงานให้กับ ElcomSoft ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำทางด้านการปลดล็อค Password และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เขาก็ได้ถูกจำคุกไป แล้วต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวไปที่เขายืนยันว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก


ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆhttp://pantip.com/topic/33124425http://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=371567

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น